คำเตือน: CFD เป็นตราสารที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการใช้เลเวอเรจ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD หรือไม่ และคุณสามารถยอมรับความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินได้หรือไม่
-
เริ่มเทรด
-
แพลตฟอร์ม
-
ผลิตภัณฑ์
-
เรียนรู้
-
การวิเคราะห์
-
ศูนย์ฝึก
-
โปรโมชัน
-
เกี่ยวกับ
-
องค์กร
-
การเป็นพันธมิตร
-
การเทรด
-
เริ่มเทรด
-
แพลตฟอร์ม
-
ผลิตภัณฑ์
-
-
แหล่งเรียนรู้
-
เรียนรู้
-
การวิเคราะห์
-
ศูนย์ฝึก
-
-
โปรโมชัน
-
โปรโมชัน
-
-
บริษัท
-
เกี่ยวกับ
-
องค์กร
-
การเป็นพันธมิตร
-
US
ภาษา
-
English
English
-
简体中文
Simplified Chinese
-
한국어
Korean
-
Melayu
Maleyu
-
Việt
Vietnamese
-
Indonesian
Indonesian
-
العربية
Arabic
-
日本語
Japanease
-
繁體中文
Traditional Chinese
-
Français
French
-
Español
Spanish
-
Português
Portuguese
-
Deutsch
German
-
فارسی
Persian
-
Italiano
Italian
-
Русский язык
Russian
-
Türkçe
Turkish
-
Polski
Polish
-
हिंदी
Hindi
ตื่นเช้ามารับกำไรที่มากขึ้นด้วยการเทรดกาแฟ
เครื่องดื่มสีดำที่ที่พวกเราต้องดื่มในทุกเช้านั้นเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องการ ไม่ใช่แค่เรื่องกระตุ้นพลังงานในตอนเช้าเท่านั้น!

จากเมล็ดสู่กำไร: เจาะลึกตลาดกาแฟโลก
-
กาแฟมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลทั้งอารมณ์และกลยุทธ์ของคุณ เพราะมันคือสินทรัพย์ที่ไม่เหมือนใครในพอร์ต
-
ความต้องการกาแฟนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้คนหันมาบริโภคกาแฟตอนเช้าเป็นกิจวัตรเพื่อกระตุ้นพลังงานไปแล้ว
มาสร้างโอกาสกันเลย
เริ่มเทรดกาแฟในพอร์ต


จะเริ่มเทรดกาแฟ CFD กับ STARTRADER ได้อย่างไร?
การเริ่มเดินทางไปในโลกแห่งการเทรดกาแฟกับ STARTRADER นั้นไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟเพื่อเคลียร์สมองก่อนเทรดเลย
-
ขั้นตอนที่ 1- เริ่มด้วยการศึกษาตลาดและทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลส่งผลกระทบต่อราคากาแฟอย่างไร
-
ขั้นตอนที่ 2- วางกลยุทธ์ให้รอบคอบ และต้องไม่ลืมกระจายการลงทุนให้มีความหลากหลาย
-
ขั้นตอนที่ 3- เปิดบัญชีทดลองเพื่อฝึกเทรด
-
ขั้นตอนที่ 4- เปิดบัญชีจริงและเริ่มเทรดเลย
ทำไมต้องเทรดกาแฟกับ STARTRADER
แอปเทรดระดับท็อปเทียร์
สะดวก ปลอดภัย และใช้ได้ง่ายๆ ให้คุณเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมลิสต์สินทรัพย์โปรดที่ให้คุณปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เพื่อติดตามออเดอร์ได้ตลอดไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน
ดำเนินคำสั่งได้ใน 100 มิลลิวินาที
ในโลกแห่งการเทรด การดำเนินคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว คือการสร้างความแตกต่างได้อย่างสิ้นเชิง ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มีความหน่วงต่ำสุด ออเดอร์ของคุณจะพร้อมออกใน 100 มิลลิวินาทีเสมอ ให้คุณคว้าโอกาสได้ทันที
สเปรดที่แคบเป็นพิเศษ
ทำกำไรให้สูงสุดด้วยค่าสเปรดที่เหนือกว่าใคร เริ่มที่ 0.0 pips ค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงหมายถึงกำไรที่สูงขึ้น
การให้บริการตลอด 24/6
รับคำแนะนำและข้อมูลเกี่ยวกับการเทรดได้ตลอดที่ต้องการ เราพร้อมให้การสนับสนุนด้วยความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นของเรา
เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000
ด้วยเลเวอเรจที่ใช้ได้ถึง 1:1000* คุณจะมีโอกาสได้เปิดโพสิชันที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง และขยายการเข้าถึงสินค้าเกษตร CFD มากมาย อย่างไรก็ตาม ควรระลึกไว้เสมอว่าเลเวอเรจที่สูงขึ้นอาจเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ เทรดเดอร์ควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ให้ขึ้นใจ ต้องคอยหมั่นติดตามข้อมูล และใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพเสมอ *เลเวอเรจที่เกินกว่า 1:30 อาจไม่สามารถใช้ได้ในบางภูมิภาค เนื่องจากข้อบังคับด้านกฎระเบียบ
บัญชีเทรดที่หลากหลาย
คุณจะได้เลือกบัญชีที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและประสบการณ์ ไล่ตั้งแต่บัญชีทดลองไปจนถึงบัญชีมาตรฐานและ ECN หากยังเป็นมือใหม่ ให้เริ่มต้นจากบัญชีทดลอง หรือเลือกบัญชีมาตรฐานและบัญชี ECN เพื่อเข้าถึงค่าสเปรดและเลเวอเรจที่ไม่เป็นรองใคร!
คำถามที่พบบ่อย
-
1.
การเทรดกาแฟคืออะไร?
การเทรดกาแฟคือการซื้อและขายกาแฟในฐานะสินทรัพย์ที่เอาไว้ใช้เทรด
การเทรดกาแฟในรูปแบบ CFD หมายถึงการเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคากาแฟโดยไม่จำเป็นต้องไปหากาแฟจริงๆ มาเป็นเจ้าของ เป็นการเทรดผ่านสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ให้เทรดเดอร์ได้ทำสัญญาเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคากาแฟตั้งแต่ช่วงเวลาที่เปิดสัญญาจนถึงตอนปิดสัญญา
เนื่องจากกาแฟเป็นสินค้าที่บริโภคอย่างแพร่หลายทั่วโลก จึงมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากมายและช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตได้เป็นอย่างดี
ประเทศหลักที่ผลิตกาแฟ ได้แก่บราซิล เวียดนาม และโคลอมเบีย ซึ่งทั้งสามประเทศนี้มีบทบาทสำคัญต่ออุปทานทั่วโลก
กาแฟเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการเทรดมากที่สุดในตลาดโลก ทุกครั้งที่คุณดื่มกาแฟ ก็อาจมีใครบางคนกำลังออกออเดอร์เทรดกาแฟอยู่ก็เป็นได้
ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อราคากาแฟคืออุปสงค์และอุปทาน เหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์ และการผันผวนของค่าเงิน
โดยกาแฟนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่อาราบิกา ที่มีรสชาติที่นุ่มนวลและมีการเทรดในตลาด Intercontinental Exchange (ICE) และโรบัสตา ที่มีรสชาติเข้มข้นกว่าและมีการเทรดในตลาด London International Financial Futures and Options Exchange (LIFFE)
นักลงทุนที่เลือกเทรดกาแฟในพอร์ต เพราะต้องการกระจายพอร์ต ลดความเสี่ยง และทำกำไรในช่วงที่ราคามีการเปลี่ยนแปลง
ท้ายที่สุดแล้ว กาแฟนั้นเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ตัวกระตุ้นพลังงานในตอนเช้าเท่านั้น
2.จะเทรดกาแฟฟิวเจอร์สได้อย่างไร?
กาแฟฟิวเจอร์สจะช่วยให้นักลงทุนได้เก็งกำไรจากราคากาแฟในอนาคตได้ ผ่านการซื้อและขายสัญญามาตรฐานบนตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตอนนี้คุณอาจจะกำลังอ่านบทความนี้ไปพลางจิบกาแฟไปพลาง และก็เริ่มสงสัยแล้วว่าจะเริ่มเทรดกาแฟฟิวเจอร์สได้อย่างไร ลองดูขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลย:
- ทำความเช้าใจตลาด: ความรู้คือพลัง หากคุณเป็นคนศึกษาตลาดมาก่อน คุณก็จะได้ทราบถึงปัจจัยหลักๆ ว่ามันมีผลกระทบต่อราคากาแฟอย่างไร เช่นสภาพอากาศ จำนวนผลผลิต และอุปสงค์ทั่วโลก ถ้าเข้าใจถึงปัจจัยเหล่านี้ดี คุณก็จะคาดการณ์ทิศทางราคากาแฟได้แม่นขึ้นและลดความเสี่ยงในการเทรดกาแฟลงไปอีก
- เลือกโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้:ถ้าอยากเริ่มเทรดกาแฟแล้วล่ะก็ สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนคือการหาโบรกเกอร์ดีๆ คำว่าไว้ใจได้ที่เราหมายถึงก็คือโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต มีสภาพแวดล้อมกรเทรดที่ดี มีฝ่ายให้บริการที่ยอดเยี่ยม และมีช่องทางฝากถอนมากมาย
- ทำความเข้าใจรายละเอียดสัญญา: Arabica Futures (ICE: KC) - หนึ่งสัญญาจะเท่ากับเมล็ดกาแฟ 37,500 ปอนด์ ส่วน Robusta Futures (LIFFE: RC) - หนึ่งสัญญาจะเท่ากับเมล็ดกาแฟ 10 ตัน โดยทุกสัญญาก็จะมีวันหมดอายุ ดังนั้นก็ต้องเข้าใจเรื่องการโรลโอเวอรด้วยเช่นกัน
- เปิดบัญชีเทรด: ถ้าหากเข้าใจถึงวิธีเทรดฟิวเจอร์สดีแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเปิดบัญชี
- ก่อนจะเริ่มเทรดด้วยเงินจริงบนบัญชีจริง ลองฝึกในบัญชีทดลองด้วยเงินเสมือนจริงก่อน แล้วค่อยๆ พัฒนากลยุทธ์ไปเรื่อยๆ
- ติดตามออเดอร์และจัดการความเสี่ยงให้ดี: ความเสี่ยงเป็นสิ่งไม่มีวันหนีได้เลยในการเทรด ดังนั้นอย่าลืมตั้งจุดตัดขาดทุน และค่อยสอดส่องออเดอร์ของคุณให้สม่ำเสมอ
-
3.
เวลาเทรดกาแฟฟิวเจอร์สคือกี่โมง?
ตามที่กล่าวไปข้างต้น กาแฟที่ใช้เทรดจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ คืออาราบิก้า และโรบัสต้า ซึ่งจะเทรดในคนละตลาดกัน - - Arabica Futures จะเทรดบนตลาด Intercontinental Exchange (ICE) ในนิวยอร์ก
ส่วน Robusta Futures จะเทรดบนตลาด London International Financial Futures and Options Exchange (LIFFE) ในลอนดอน
ซึ่งแต่ละตลาดมีช่วงเวลาเทรดที่ต่างกัน ลองมาดูรายละเอียดกัน!
Arabica Coffee Futures (ICE: KC)
ตลาด: Intercontinental Exchange (ICE) – นิวยอร์ก เวลาเทรด (UTC/GMT -5, เวลานิวยอร์ค) เทรดออนไลน์ (ICE Futures U.S.):
- อาทิตย์ - ศุกร์: 03:30 – 14:00 น. (เวลานิวยอร์ค)
- พักเทรด: 14:00 – 03:30 น. (ก่อนเข้าสู่รอบใหม่)
Robusta Coffee Futures (LIFFE: RC)
ตลาด: London International Financial Futures and Options Exchange (LIFFE, เป็นส่วนหนึ่งของ ICE Europe)
เวลาเทรด (UTC/GMT):
เทรดออนไลน์:- จันทร์ - ศุกร์: 08:00 – 16:30 น. (เวลาลอนดอน)**
หมายเหตุ: การเปลี่ยนเวลาแต่ละพื้นที่อาจส่งผลกระทบต่อเวลาเทรด ดังนั้นควรเช็คเวลาก่อนเทรดให้ดีเสมอ
4.ปัจจัยอะไรบ้างที่มีอิทธิพลต่อราคากาแฟ?
มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคากาแฟ
- สภาพอากาศ
เนื่องจากกาแฟเป็นสินค้าเกษตร ดังนั้นสภาพอากาศจึงมีผลโดยตรงต่อการกำหนดราคากาแฟ สภาพอากาศที่รุนแรง เช่นฝนตกหนัก หรือภัยแล้งก็ส่งผลต่อการผลิตกาแฟและผลักราคาให้พุ่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรอื่นๆ - โรคพืชและวัชพืช
นี่ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร โรคราสนิม คือเชื้อราที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตได้ โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่มีความอ่อนไหวต่อโรคนี้มาก ถ้าโรคนี้กำลังอยู่ในช่วงระบาดหรือแม้แต่โรคอื่นๆ ก็ตาม การผลิตกาแฟก็จะลดลง ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้น - การขนส่งและน้ำมัน
น้ำมันคือสิ่งที่การขนส่งกาแฟต้องใช้ ถ้าราคาน้ำมันแพงขึ้น ก็หมายถึงราคากาแฟก็ต้องสูงขึ้นเช่นกัน - ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์และการเมือง
หลายประเทศที่กำลังพัฒนาอาจเผชิญปัญหาในการผลิต เนื่องจากปัญหาทางสังคมและความไม่สงบทางการเมืองต่างก็ส่งผลกระทบต่อราคากาแฟทั้งนั้น - ดอลลาร์สหรัฐ
เนื่องจากกาแฟเทรดด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นถ้าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น ราคากาแฟก็อาจจะสูงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่น - การเก็งกำไรและการเทรดที่เยอะขึ้น
กองทุนป้องกันความเสี่ยง การเทรดด้วยอัลกอริทึม และการเก็งกำไรต่างก็ส่งผลให้ราคากาแฟผันผวนขึ้นลงเร็ว บางครั้งราคาของกาแฟฟิวเจอร์สก็อาจสะท้อนถึงการคาดการณ์อุปสงค์และอุปทาน มากกว่าสถานการณ์จริง การเทรดทางเทคนิคอาจมีอิทธิพลต่อราคากาแฟมากกว่าอุปทานของจริง - ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
มีการคาดการณ์ว่าการบริโภคกาแฟทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1 ถึง 2% ต่อปี อุปทานส่วนใหญ่ก็มาจากประเทศผู้ผลิต เช่นบราซิล เวียดนาม และโคลอมเบีย แต่ประเทศผู้ผลิตเหล่านั้นก็มีการบริโภคกาแฟที่มากขึ้น่นกัน ส่งผลให้ปริมาณกาแฟที่ส่งออกไปสู่ตลาดโลกลดลง
-
5.
อะไรคือข้อดีและข้อเสียของการเทรดกาแฟฟิวเจอร์ส?
ข้อดีของการเทรดกาแฟฟิวเจอร์สหรือ CFD:
- สภาพคล่องสูง: เนื่องจากกาแฟเป็นสินค้าที่มีการเทรดมากมาย จึงส่งผลให้มีสภาพคล่องสูง ซึ่งหมายถึงการออกออเดอร์ก็จะทำได้ง่ายๆ เช่นกัน
- เลเวอเรจ: โบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรดกาแฟ CFD จะมีเลเวอเรจให้เทรดเดอร์ได้ใช้ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ได้เปิดโพสิชันที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง แต่ต้องระวัง เพราะเลเวอเรจก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนที่เยอะเสียยิ่งกว่ากว่าเงินลงทุนที่ใช้ตั้งแต่แรกได้
- การกระจายความเสี่ยง: การเทรดกาแฟฟิวเจอร์สหรือ CFD นั้นสามารถใช้เพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนแค่ในหุ้นหรือพันธบัตรเท่านั้น
ข้อเสียของการเทรดกาแฟฟิวเจอร์สหรือ CFD:
- ความผันผวน: เนื่องจากราคากาแฟมักได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงของอุปทานและอุปสงค์ ปัจจัยเหล่านี้ต่างทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรงได้
- เลเวอเรจ: แม้ว่าเลเวอเรจจะช่วยให้นักลงทุนเปิดโพสิชันที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงินทุนที่น้อยลง แต่ก็เป็นการเพิ่มทั้งโอกาสทำกำไรและความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน
- ข้อกำหนดในการจัดเก็บและขนส่ง: สำหรับสัญญาในการส่งมอบสินค้าจริงนั้น เทรดเดอร์ต้องปิดโพสิชันก่อนที่สัญญาจะหมดอายุ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการรับสินค้าของจริง ในทางกลับกัน สินค้าฟิวเจอร์ส หรือ CFD นั้น เทรดเดอร์จะไม่ได้รับการส่งมอบสินค้าจริงๆ แต่จะทำกำไรด้วยความแตกต่างของราคานับจากเวลาที่เปิดและปิดสัญญาแทน อย่างไรก็ตาม ทั้งสัญญาส่งมอบสินค้าของจริง และ CFD ต่างก็ยังคงมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะหากมีการใช้เลเวอเรจเกิดขึ้น

เราใช้คุกกี้เพื่อทำความเข้าใจว่าคุณใช้งานเว็บไซต์ของเราอย่างไร และเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยดูนโยบายคุกกี้ของเรา