คำถามที่พบบ่อย

• 1.  

  การเทรดข้าวสาลีคืออะไร?

  การเทรดข้าวสาลีหมายถึงการซื้อขายข้าวสาลีในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ข้าวสาลีเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก เพราะเป็นอาหารหลักสำหรับหลายคนทั่วโลก

  การซื้อขายข้าวสาลีของจริงไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะลงทุนในสินค้าที่เต็มไปด้วยโอกาสแห่งนี้ นักลงทุนสามารถเทรดข้าวสาลีผ่าน:

  • ตลาดสปอต (ซื้อขายของจริง) – คือการซื้อขายข้าวสาลีของจริงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
  • ตลาดฟิวเจอร์ส – คือการที่เทรดเดอร์เทรดสัญญาข้าวสาลีในตลาดหลักทรัพย์ เช่น Chicago Board of Trade (CBOT)
  • CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) – เป็นการเทรดการเคลื่อนไหวของราคาข้าวสาลีโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินค้าจริง
  2.  

  ข้าวสาลีฟิวเจอร์สคืออะไร?

  อธิบายง่ายๆ ฟิวเจอร์สคือสัญญามาตรฐานที่ทำขึ้นเพื่อซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ในสัญญา นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ต้องซื้อหรือขายสินค้าในปริมาณที่กำหนดไว้ด้วยราคาและวันที่ที่ตกลงกันล่วงหน้า

  สำหรับข้าวสาลีฟิวเจอร์ส คือสัญญาที่ทำให้นักลงทุนซื้อหรือขายข้าวสาลีในปริมาณที่กำหนดในราคาและวันที่ที่ตกลงไว้ล่วงหน้า

  Chicago Board of Trade (CBOT) เป็นตลาดหลักที่ใช้ในการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ข้าวสาลีและถั่วเหลือง

  ข้าวสาลีที่นักลงทุนสามารถเทรดผ่านฟิวเจอร์สได้จะมีห้าประเภทดังนี่:

  • Hard Red Winter Wheat (HRW)
    เป็นข้าวสาลีที่ปลูกมากที่สุดในสหรัฐฯ และใช้ทำขนมปังให้ผู้คนกินทุกวัน เป็นข้าวสาลีเอนกประสงค์เพราะมีโปรตีนสูง
  • Soft Red Winter Wheat (SRW)
    คนรักเค้ก คุกกี้ และแคร็กเกอร์จะต้องทำความรู้จักข้าวสาลีชนิดนี้ เหมาะกับการทำขนมเพราะมีโปรตีนต่ำ
  • Hard Red Spring Wheat (HRS)
    ใช้ทำขนมปังระดับพรีเมียม เบเกิล และขนมปังโฮลวีตของช่างฝีมืออย่าง Artisan เป็นข้าวสาลีที่มีโปรตีนสูงที่สุด
  • Soft White Wheat (SWW)
    เป็นข้าวสาลีโปรตีนต่ำที่เหมาะที่สุดในการทำขนมปัง เค้ก และก๋วยเตี๋ยวสไตล์เอเชีย
  • Hard White Wheat (HWW)
    ข้าวสาลีชนิดนี้จะคล้ายกับ HRW แต่สีและรสชาติจะอ่อนกว่า ใช้ทำขนมปังโฮลวีตและทอร์ติญา
  • ข้าวสาลีดูรัม
    เป็นข้าวสาลีที่แข็งที่สุดและมีโปรตีนสูง เหมาะใช้ทำพาสต้าและเซโมลิน่า

  การเทรดข้าวสาลีฟิวเจอร์สทำให้นักลงทุนได้ป้องกันความผันผวนของราคาได้ และยังทำกำไรได้ทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้เปิดโพสิชันที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลงผ่านการใช้เลเวอเรจ แต่ต้องระวังว่าสัญญาฟิวเจอร์สนั้นมีวันหมดอายุที่กำหนดไว้เพื่อส่งมอบสินทรัพย์ของจริง

  หากไม่อยากกังวลเกี่ยวกับวันหมดอายุ อาจพิจารณาเทรดข้าวสาลี CFD แทน

• 3.  

  เวลาเทรดข้าวสาลีฟิวเจอร์สคือกี่โมง?

  เนื่องจากฟิวเจอร์สเป็นสัญญาที่กำหนดเวลาและวันที่ในการซื้อขายสินค้า นักลงทุนจึงจำเป็นต้องทราบเวลาเทรดของฟิวเจอร์สข้าวสาลีไว้

  ลองมาดูข้อมูลทั่วไปของเวลาเทรดข้าวสาลีฟิวเจอร์สกัน:

  • ข้าวสาลีฟิวเจอร์สส่วนใหญ่จะเทรดบนแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์อย่างตลาด CME Globex ซึ่งมีเวลาการเทรดดังนี้ (เวลา Central Time, CT):
    อาทิตย์ถึงศุกร์: 19:00 – 07:45 น.
    จันทร์ถึงศุกร์: 08:30 – 13:20 น.
  • ในเขตเวลาท้องถิ่นของคุณ (เวลา Gulf Standard Time, GST) เวลาจะตรงกับ:
    อาทิตย์ถึงศุกร์: 05:00 – 15:45 น.
    จันทร์ถึงศุกร์: 18:30 – 22:20 น.

  อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรทราบไว้ว่าเวลาเทรดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามวันหยุดหรือสถานการณ์พิเศษ

  4.  

  ปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อราคาข้าวสาลี?

  มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาข้าวสาลี ได้แก่

  • สภาพอากาศ: ข้าวสาลีจะได้รับผลกระทบเหมือนกับสินค้าเกษตรอื่นๆ จากสภาพอากาศที่รุนแรง เช่นภัยแล้ง น้ำท่วม และอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งทำให้ราคาข้าวสาลีเพิ่มขึ้น เนื่องจากการผลิตจะลดลง
  • อุปสงค์และอุปทาน: เราเคยเน้นไปแล้วว่า การผลิตที่มีจำกัดจะทำให้ราคาพุ่งขึ้น เป็นปัจจัยที่สร้างความไม่สมดุลให้กับอุปสงค์และอุปทาน ข้อมูลเศรษฐกิจค้าขายนั้นแสดงให้เห็นว่า ความต้องการทั่วโลกสามารถผลักดันราคาข้าวสาลีให้สูงขึ้นได้ หากอุปทานไม่เพียงพอ โดยเฉพาะประเทศนำเข้าหลักอย่างจีน
  • นโยบายและการสนับสนุนของรัฐบาล: การออกมาตรการต่างๆ เช่นการห้ามส่งออกข้าวสาลีของอินเดีย หรือการตั้งราคาซื้อขั้นต่ำจากรัฐบาลสหรัฐฯ ต่างส่งผลกระทบต่อการผลิตและการตั้งราคาทั้งสิ้น
  • ความแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ: เนื่องจากข้าวสาลีถูกเทรดด้วยดอลลาร์สหรัฐ หากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ผู้ใช้สกุลเงินอื่นๆ อาจต้องเทรดด้วยราคาที่สูงขึ้น
  • วัชพืชและโรค: การระบาดของศัตรูพืชหรือโรคอาจทำลายผลผลิตของข้าวสาลี หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น การผลิตจะขาดแคลน และผลักให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
• 5.  

  จะเริ่มเทรดข้าวสาลีได้อย่างไร?

  การเริ่มเทรดข้าวสาลีสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้:

  • ตัดสินใจเลือกวิธีลงทุน คุณอาจจะเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้าวสาลี หรือเลือกเทรดข้าวสาลีฟิวเจอร์ส หรือ CFD ก็ได้
  • ทำความเข้าใจวิธีลงทุนทั้งหมด ศึกษาวิธีการต่างๆ และลองพิจารณาว่าวิธีไหนตอบโจทย์เป้าหมายของตัวเองที่สุด
  • เลือกโบรกเกอร์ คราวนี้ก็ถึงเวลาต้องเลือกโบรกเกอร์แล้ว การเลือกโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่สุด อาจเป็นตัวตัดสินสำคัญในการลงทุนของคุณ
  • สเปรด : ยิ่งต่ำยิ่งดี
  • มีบัญชีหลายประเภทที่เหมาะกับประสบการณ์เทรดทุกระดับ
  • ออกออเดอร์ได้เร็ว ไม่พลาดทุกโอกาสในการเทรด
  • ใช้เลเวอเรจได้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ระวังว่ายิ่งเลเวอเรจสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเท่านั้น
  • พร้อมให้บริการลูกค้าตลอดเวลา
  • เมื่อคุณได้ศึกษาตลาดและเลือกโบรกเกอร์ได้แล้วนั้น ก็ถึงเวลาต้องเปิดบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนทักษะและพัฒนากลยุทธ์โดยไม่ต้องเสี่ยงลงเงินทุนของตัวเอง
  • เมื่อคุณมั่นใจในทักษะและกลยุทธ์ของตัวเองแล้ว ก็เปิดบัญชีจริงและเริ่มเส้นทางเทรดของจริงได้เลย