คำถามที่พบบ่อย

• 1.  

  การเทรดน้ำตาลคืออะไร?

  การเทรดน้ำตาลในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์เป็นเรื่องธรรมดาที่ทำกันทั่วโลก ทั้งในแง่ของการบริโภคประจำวันและการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ส่วนการเทรดน้ำตาล CFD เทรดเดอร์จะไม่ต้องเป็นเจ้าของน้ำตาลจริงหรือต้องรับสินค้าของจริง แต่จะทำกำไรจากความผันผวนของราคา โดยการคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นหรือลง

  การเทรดน้ำตาลในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์ทำได้ทั้งในรูปแบบการเทรดสินค้าจริงทหรือผ่านสัญญาฟิวเจอร์สบนตลาดซื้อขายหลักๆ ดังนี้:

  • Intercontinental Exchange (ICE)
  • Kansai Commodities Exchange (KEX)
  • Brazilian Mercantile and Futures Exchange (BF&M)
  • National Commodities and Derivatives Exchange (NCDEX)
  • National Commodity Exchange Limited (NCEL)
  • Zhengzhou Commodity Exchange (CZCE)
  • Multi Commodity Exchange (MCX)

  ในการเทรดน้ำตาล CFD เทรดเดอร์จะได้ใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจ เพื่อเปิดโพสิชันที่ใหญ่กว่าทุนที่มีอยู่จริงได้ อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจก็ไม่ได้เพิ่มเฉพาะโอกาสในการทำกำไรเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงขาดทุนด้วยเช่นกัน หากตลาดเคลื่อนสวนทางกับโพสิชันที่เปิดไว้ เทรดเดอร์อาจขาดทุนมากกว่าทุนเริ่มต้นได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทรดให้ชัดเจน และเทรดให้อยู่ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้เท่านั้น

  2.  

  จะเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์สได้อย่างไร?

  การเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์ส คือการซื้อขายสัญญาที่กำหนดปริมาณน้ำตาล ราคาซื้อขาย และวันส่งมอบล่วงหน้าไว้ล่างหน้า

  ในการเริ่มเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์ส ทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:

  • 1. เลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์ส ให้เปรียบเทียบโบรกเกอร์หลายๆ เจ้า และเลือกเจ้าที่มีสภาพแวดล้อมการเทรดที่ดีที่สุด
  • 2. ทำความเข้าใจสัญญาฟิวเจอร์สของน้ำตาล
    ขนาดสัญญามาตรฐาน: หนึ่งสัญญา มีน้ำตาลประมาณ 112,000 ปอนด์ (50 เมตริกตัน)
    เวลาเทรด: 08:30 – 17:59 GMT บนตลาด ICE สหรัฐ
    เดือนที่สัญญาหมดอายุ: มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม ตุลาคม และธันวาคม
  • 3. ศึกษาตลาดให้ดี และทำความเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำตาล เพื่อตัดสินใจให้ดีขึ้น โดยน้ำตาลจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ การผลิต ความต้องการผลิตเอทานอล เช่นเดียวกับนโยบายของรัฐบาล
  • 4. เปิดออเดอร์และตั้งคำสั่ง Stop Loss คุณจะมีโอกาสได้ถือสัญญาไว้จนหมดอายุ (หากต้องการได้รับสินทรัพย์จริง) หรือปิดสัญญาก่อนหมดอายุเพื่อทำกำไรหรือตัดการขาดทุน
  • 5. หากไม่อยากจัดการกับวันหมดอายุของสัญญา คุณก็เลือกเทรดน้ำตาล CFD ได้แทน
• 3.  

  จะเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์สได้ตอนไหน?

  คุณอาจจะสงสัยว่าจะลงทุนน้ำตาลได้ตอนไหน? มาเริ่มที่น้ำตาลฟิวเจอร์สกันก่อน

  ภาพรวมของเวลาการซื้อขายน้ำตาลฟิวเจอร์ส:

  • การเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์สจะมีเวลากำหนดไว้ โดยหลักๆ จะเทรดในตลาด Intercontinental Exchange (ICE US):
    เวลาเทรด (ICE US - Sugar No. 11 Futures)
    
    08:30 – 17:59 GMT (จันทร์ถึงศุกร์)
    ช่วงก่อนเปิดตลาด (ก่อนเริ่มเทรด)
    
    07:30 – 08:30 GMT
  • วันหมดอายุของสัญญาฟิวเจอร์สของน้ำตาลจะอยู่ในเดือนมีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม ตุลาคม และธันวาคม

  นักลงทุนควรทราบว่าการเทรดน้ำตาลฟิวเจอร์ไม่สามารถทำได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากตลาดปิด รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์อื่นๆ ด้วย ส่วนตลาดอื่น ๆ เช่น MCX (อินเดีย) หรือ CZCE (จีน) อาจมีเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างออกไป

  4.  

  น้ำตาล CFD คืออะไร?

  หากคุณไม่อยากจัดการกับวันหมดอายุของสัญญาหรือทุนที่ต้องใช้สูง น้ำตาล CFD จะเป็นตัวเลือกที่ดีในการเทรดการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำตาล ผ่านการใช้เลเวอเรจและต้นทุนที่ต่ำกว่า

  ตามที่ได้อธิบายไปแล้ว การเทรดน้ำตาล CFD จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้คาดการณ์ราคาน้ำตาลแทน โดยไม่ต้องลำบากไปหาสินทรัพย์ครอบครองจริงหรือการจัดการกับวันที่หมดอายุของสัญญา

  มาดูกลไกการทำงานของ CFD โดยสังเขปกันบ้าง:

  • หลังจากที่เลือกโบรกเกอร์ CFD ได้แล้ว ก็ทำสัญญา CFD ซึ่งจะทำให้คุณได้แลกเปลี่ยนความต่างของราคาได้
  • ตั้งคำสั่งซื้อหรือขายตามการเคลื่อนไหวของราคา
  • จากนั้นก็คอยติดตามออเดอร์นั้นและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ที่จำเป็น

  การเทรดน้ำตาล CFD นั้นมีข้อดีสำหรับเทรดเดอร์ดังนี้:

  • ไม่ต้องยุ่งยากกับการหาสินทรัพย์จริงมาครอบครอง
  • เทรดด้วยเงินทุนที่น้อยลงด้วยการใช้เลเวอเรจ
  • เทรดสินทรัพย์หลากหลายได้ในเวลาเดียวกัน
  • ไม่มีวันหมดอายุ
• 5.  

  น้ำตาลถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์หรือไม่?

  คำตอบคือ ใช่! น้ำตาลถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่ซื้อขายกันทั่วไปในตลาดโลก มีการใช้งานน้ำตาลอย่างมากมายในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ความต้องการน้ำตาลในตลาดนั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  ในโลกแห่งการเทรดนั้น เรามีสินค้าโภคภัณฑ์สองประเภทหลักๆ คือสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้แล้วหมดไป และสินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์ผลิตเองได้ ชนิดแรกคือทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกขุดขึ้นหรือสกัดมาจากธรรมชาติ ส่วนชนิดหลังคือผลผลิตทางการเกษตร เช่นกาแฟ โกโก้ และถั่ว

  ตามที่กล่าวมาข้างต้น น้ำตาลจัดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์ผลิตเองได้ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:

  • น้ำตาลดิบ (Sugar No. 11) – เทรดในตลาด ICE US ใช้สำหรับการแปรรูป
  • น้ำตาลขาว (Sugar No. 5) – เทรดในตลาด ICE Europe ใช้บริโภคโดยตรง
  6.  

  จะเทรดน้ำตาลบนแพลตฟอร์มไหนได้บ้าง?

  คุณจะได้เทรดน้ำตาลบนแพลตฟอร์มมากมาย โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะให้เทรดน้ำตาล CFD ผ่านแพลตฟอร์มดังต่อไปนี้:

  • MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5)
    เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะมีเครื่องมือสร้างกราฟขั้นสูง ตัวช่วยเทรดอัตโนมัติ และเลือกเปิดออเดอร์ได้อย่างยิดหยุ่น การเทรดน้ำตาลผ่านสองแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นการมอบศักยภาพในการเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยม
  • แอปเทรด
    นอกจาก MT4 และ MT5 แล้ว โบรกเกอร์หลายที่ก็จะมียังแอปพลิเคชันเทรดเป็นของตัวเองเหมือนกัน ซึ่งบางแอปจะเป็นแบบมือถือ บางแอปจะเป็นแบบเว็บ นักลงทุนสามารถจะได้เทรด CFD น้ำตาลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอปเหล่านี้ ความสะดวกสบายของแอปคือการเข้าถึงตลาดได้แบบเรียลไทม์ การตั้งการแจ้งเตือนราคา และการใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ย
• 7.  

  จะติดต่อฝ่ายให้บริการ หากมีคำถามเกี่ยวกับการเทรดน้ำตาล CFD ได้อย่างไร?

  โบรกเกอร์ทีดีต้องพร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบข้อสงสัยหรือคำถามต่างๆ ที่เทรดเดอร์อยากทราบ หากต้องการลงทุนในน้ำตาล คุณจะต้องหาโบรกเกอร์ก่อน

  ลองมาดูเช็คลิสต์ในการพิจารณาโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดกัน:

  • เลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพแวดล้อมการเทรดที่ไม่เป็นรองใคร
    จากตัวเลือกเลเวอเรจที่มีให้ใช้มากมาย ไปจนถึงการออกออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว ประเภทบัญชีที่หลากหลาย การถอนเงินที่สะดวก และค่า pip ที่แคบกว่า เงื่อนไขเหล่านี้จะทำให้เส้นทางการเทรดของคุณแตกต่างไปจากเดิม
  • เลือกโบรกเกอร์ที่มีการให้บริการที่ยอดเยี่ยม
    เมื่อประสบปัญหาหรือมีข้อกังวล คุณก็ต้องได้รับการให้บริการที่ติดต่อได้ง่ายๆ และมีความรู้ลึกซึ้งในสาขานั้นๆ จริงๆ
  • เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการรีวิวดี
    รีวิวออนไลน์จากแพลตฟอร์มต่างๆ คือการให้ข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับประสบการณ์ของเทรดเดอร์ที่เคยใช้บริการของโบรกเกอร์นั้น ๆ

  STARTADER นั้นพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และรองรับกว่า 20 ภาษา ให้คุณได้ติดต่อฝ่ายให้บริการได้ง่ายๆ ผ่านอีเมลหรือแชทถามโดยตรงได้เลย