คำถามที่พบบ่อย

• 1.  

  การเทรดพาลาเดียมคืออะไร?

  ก่อนจะเข้าสู่โลกแห่งการเทรดพาลาเดียม ลองมาทำความรู้จักโลหะตัวนี้กันสักนิด คุณจะมีโอกาสเจอพาลาเดียมได้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องประดับ และยานยนต์ คนจึงนิยมเทรดโลหะชนิดนี้ เพราะมีความต้องการสูงในตลาดโลก ซึ่งมีวิธีมากมายให้เลือก:

  • เทรดแบบสปอต: เป็นวิธีเทรดที่เบสิคที่สุดแล้ว เพราะเป็นการซื้อขายพาลาเดียมตามราคาปัจจุบันของตลาด
  • สัญญาฟิวเจอร์ส: เป็นการซื้อขายพาลาเดียมด้วยราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แทนที่จะซื้อขาย ณ เดี๋ยวนั้น
  • เทรดพาลาเดียม CFD: เป็นการเทรดความเคลื่อนไหวของราคาพาลาเดียมผ่านการถือสัญญา CFD บนแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์โดยไม่ต้องถือของจริง
  • กองทุน ETF: ลงทุนกับกองทุนที่ติดตามราคาโลหะชนิดนี้
  2.  

  พาลาเดียม CFD คืออะไร?

  หากคำอธิบายก่อนหน้านี้ทำให้คุณสงสัยว่าการเทรดพาลาเดียม CFD คืออะไร ลองมาทำความเข้าใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้นตรงนี้กัน CFD ย่อมาจาก Contracts for Difference คือสัญญาที่ให้เทรดเดอร์ได้เก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์

  • ราคาจะขึ้นหรือจะลง?
  • เทรดเดอร์จะตัดสินใจเปิดออร์เดอร์ซื้อหรือขายตามสถานการณ์ดังนี้
  • หากคิดว่าราคาจะขึ้น ก็เข้าซื้อ (เปิด Long)
  • หากคาดว่าราคาจะลง ก็ขายออก (เปิด Short)
  • เป้าหมายคือการทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย

  CFD คือสัญญาที่ให้นักลงทุนเปิดไว้เพื่อเทรดโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง แค่ถือสัญญาที่ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาของโลหะนี้ก็พอ

• 3.  

  อะไรคือข้อดีของการเทรดพาลาเดียม CFD?

  นอกจากจะไม่ต้องถือครองโลหะจริง ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะขายโลหะให้ช่างทำเพชรหรือบริษัทผลิตรถยนต์ได้ การเทรดพาลาเดียม CFD ยังมีข้อดีอีกมากมายเช่น:

  การเทรดด้วยเลเวอเรจ:

  • แพลตฟอร์มเทรดออนไลน์จะเปิดโอกาสให้คุณได้ลงทุนในโลหะมีค่านี้ด้วยเงินทุนที่น้อยลงผ่านการใช้เลเวอเรจ ตัวอย่างเช่น เลเวอเรจ 1:20 หมายความว่า เทรดเดอร์จะสามารถเปิดโพสิชันที่มีมูลค่ามากกว่า 20 เท่าของเงินทุนได้ หากคุณลงทุน $1 จะสามารถเปิดโพสิชันที่มูลค่าเทียบเท่า $20 ได้
  • แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มการทำกำไร แต่ก็ต้องเพิ่มการขาดทุนได้เช่นกัน ซึ่งอาจขาดทุนมากกว่าทุนเริ่มต้นได้ด้วยซ้ำ

  ทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง:

  • ข้อดีอีกอย่างของการเทรดพาลาเดียม CFD คือการเปิดโอกาสให้คุณได้ทำกำไรทั้งในช่วงที่ราคาขึ้นและลง

  เข้าถึงง่าย:

  • แพลตฟอร์มเทรดออนไลน์ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดพาลาเดียมได้โดยตรง เนื่องจากพาลาเดียมเป็นโลหะที่มีความต้องการสูงในอุตสาหกรรม
  4.  

  เวลาเทรดพาลาเดียม CFD คือกี่โมง?

  ก่อนจะเริ่มเทรดพาลาเดียม CFD สิ่งแรกที่ควรรู้ก่อนก็คือ เทรดได้ "ตอนกี่โมง"? หรือช่วงเวลาเทรดพาลาเดียมนั้นเอง

  ข่าวดีคือคุณจะได้เทรดพาลาเดียมตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งก็เพราะตลาดพาลาเดียมเปิดตามเวลาเทรดของโลก และเนื่องจากพาลาเดียมเป็นสินทรัพย์ที่มีการเทรดทั่วโลก เมื่อตลาดนึงปิด ตลาดนึงก็จะเปิดต่อ

  ช่วงเวลาเทรดหลักของพาลาเดียมจะแตกต่างไปตามภูมิภาค เช่น:

  - CME Group (ตลาดฟิวเจอร์ส COMEX) – นิวยอร์ก

  • เวลาเทรด: อาทิตย์ – ศุกร์ เวลา: 18:00 – 17:00 น. ET (วันถัดไป)
  • หยุดพักชั่วคราว: 17:00 – 18:00 น. (พัก 1 ชั่วโมง)

  - ตลาด OTC ในลอนดอนและซูริก (ตลาดสปอตพาลาเดียม)

  • คึกคักในช่วงเวลาเทรดของตลาดยุโรป มักทับซ้อนกับเวลาของตลาดนิวยอร์ก

  - ตลาดเอเชีย (โตเกียว เซี่ยงไฮ้):

  • เทรดพาลาเดียมในช่วงเวลาเอเชียแปซิฟิก มักเป็นผู้กำหนดราคาของวันนั้นก่อนที่อื่น
• 5.  

  ปัจจัยใดบ้างที่มีส่งผลต่อราคาพาลาเดียม?

  อุปสงค์และอุปทาน

  • ก็เหมือนกับกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ กลไกอุปสงค์และอุปทานมีบทบาทสำคัญต่อราคาพาลาเดียม ด้วยความที่เป็นหนึ่งในโลหะที่หายากที่สุดในโลกและมีแหล่งผลิตหลักอยู่ในประเทศอย่างแอฟริกาใต้และรัสเซีย ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหยุดผลิตหรือการส่งออกจากประเทศเหล่านี้จะทำให้ปริมาณโลหะในตลาดลดลง ซึ่งส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นได้
  • อุตสาหกรรมยานยนต์คืออุปสงค์ที่ใหญ่ที่สุด ยิ่งมีการผลิตพาหนะมากเท่าไร ความต้องการพาลาเดียมก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

  เหตุการณ์ทางภูมิศาสตร์

  • เรื่องนี้ก็ได้ถูกพูดถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ เพราะมันเกี่ยกับความต้องการของโลหะชนิดนี้ เหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศผู้ผลิต เช่น รัสเซียและแอฟริกาใต้ สามารถส่งผลกระทบต่อราคาโลหะหายากชนิดนี้ได้โดยตรง
  • อุตสาหกรรมยานยนต์คืออุปสงค์ที่ใหญ่ที่สุด ยิ่งมีการผลิตพาหนะมากเท่าไร ความต้องการพาลาเดียมก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

  การหยุดผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยี

  • พาลาเดียมยังถูกใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วงการเทคโนโลยีจึงส่งผลต่อราคาได้เช่นกัน เมื่อบริษัทเทคโนโลยีเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่นแพลตตินัม ความต้องการพาลาเดียมก็จะลดลง ทำให้ราคาปรับตัวลดลงตาม
  6.  

  ราคาของพาลาเดียมผันผวนมากขนาดไหน?

  พาลาเดียม หรือที่บางคนเรียกกันว่า "ทองคำขาว" เป็นโลหะมีค่าที่ขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนของราคาอย่างมาก เมื่อเทียบกับโลหะมีค่าอื่นๆ อย่างทองคำหรือเงิน เรามาดูถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาของมันเหวี่ยงแรงกัน:

  เป็นโลหะที่ค่อนข้างใหม่

  • เมื่อเทียบกับทองคำที่มีมูลค่ายาวนานมาหลายพันปี พาลาเดียมเพิ่งเริ่มเป็นที่ต้องการในตลาดโลกในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะหลังจากที่อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตขึ้น ทำให้นักลงทุนบางรายยังไม่มั่นใจในความเสถียรของโลหะนี้เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

  มีการผลิตที่จำกัดมาก

  • ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านั้น พาลาเดียมส่วนใหญ่จะผลิตในสองประเทศเท่านั้น หากเกิดปัญหาทางการเมืองหรือภัยธรรมชาติในพื้นที่เหล่านี้ ก็จะส่งผลต่อการผลิตได้อย่างแน่นอน

  ตลาดเล็กกว่าทองคำมาก

  • ขณะที่ตลาดทองคำทั่วโลกมีมูลค่าราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ ตลาดพาลาเดียมมีมูลค่าประมาณ 24,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้นในปี 2023 ด้วยขนาดที่เล็กและสภาพคล่องต่ำ สาเหตุก็เป็นไปตามที่กล่าวก่อนหน้านี้ เพราะการผลิตมีจำกัดและเพิ่งเป็นโลหะที่ถูกค้นพบ

  รวมๆ แล้ว ทุกปัจจัยที่กล่าวมาต่างทำให้โลหะส่องแสงประกายชนิดนี้มีความผันผวนสูงมาก รวมถึงความต้องการใช้ก็ยังไม่แน่นอนอีกด้วย

• 7.  

  เทรด CFD พาลาเดียมนอกเวลาตลาดได้ไหม?

  • ต่างจากพาลาเดียมฟิวเจอร์สที่ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม พาลาเดียม CFD เป็นผลิตภัณฑ์แบบ OTC (ซื้อขายโดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์) ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเทรดได้นอกเวลาตลาดหลักนั่นเอง
  • จันทร์ถึงศุกร์: เวลาการเทรดมักจะอิงตามตลาด NYMEX แต่สามารถขยายเวลาได้ เนื่องจากเป็นการเทรดผ่านตลาด OTC
  • เทรดนอกเวลาทำการ: โบรกเกอร์หลายแห่งเปิดให้เทรดได้แม้ว่าตลาดซื้อขายของจริงจะปิดไปแล้ว
  • วันหยุดสุดสัปดาห์:โดยทั่วไปจะปิด แต่โบรกเกอร์บางแห่งอาจเปิดให้เทรดได้ในช่วงเวลาจำกัด
  8.  

  จะเริ่มเทรดแพลเลเดียม CFD ได้อย่างไร

  หากอยากเริ่มต้นเทรดพาลาเดียม CFD คุณจะต้อง:

  • เลือกโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้ ให้เริ่มจากเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับควบคุม และต้องพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประสบการณ์เทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ควรหาโบรกเกอร์ที่มีสเปรดที่ไม่เป็นรองใคร มีเลเวอเรจให้ใช้ มีสินทรัพย์หลากหลาย และมีบทวิเคราะห์ตลาดให้อ่านตลอดเวลา
  • ศึกษาตลาดให้เข้าใจ ก่อนเริ่มเส้นทางการเทรดนั้น ควรทำความเข้าใจตลาดให้ดี โดยเฉพาะตลาดพาลาเดียม และปัจจัยหลักๆ ที่มีผลต่อราคาของโลหะชนิดนี้
  • เปิดบัญชีทดลอง บัญชีทดลองจะเป็นด่านแรกที่ให้คุณได้ทดลองใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในแพลตฟอร์ม ทดสอบกลยุทธ์ และเพิ่มความมั่นใจในทักษะเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงลงเงินจริง
  • เปิดบัญชีจริงและเกาะติดข่าวสารอยู่เสมอ อย่าลืมใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์
• 9.  

  ความเสี่ยงในการเทรดพาลาเดียม CFD มีอะไรบ้าง?

  การเทรดพาลาเดียม CFD มีความเสี่ยงหลายด้านที่ส่งผลต่อราคา:

  • ความไม่แน่นอนจากประเทศผู้ผลิตหลัก อย่างแอฟริกาใต้และรัสเซีย อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิต ซึ่งทำให้ราคาของโลหะเปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับพลัน
  • การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์ การเปลี่ยนกฎระเบียบใหม่ และการพัฒนาของเทคโนโลยทางเลือกต่างส่งผลต่อความต้องการพาลาเดียมทั้งนั้น
  • สภาพคล่องต่ำกว่าทองคำและเงิน บางครั้งก็ส่งผลให้สเปรดกว้างขึ้น
  10.  

  ทำไมต้องเลือกแพลตฟอร์มของเราในการเทรดพาลาเดียม CFD?

  มีหลายเหตุผลที่นักลงทุนในตลาดพาลาเดียม CFD เลือกเทรดกับ STARTRADER:

  • เราพร้อมให้บริการลูกค้าด้วยทีมงานในหลากหลายประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะพบปัญหาหรือมีข้อสงสัยใดๆ ก็สามารถติดต่อฝ่ายให้บริการโดยตรงได้ทันที
  • เราเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่เสนอค่าสเปรดที่แคบที่สุดแล้วในตลาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้ตั้งเป้าหมายรับผลตอบแทนที่มากขึ้นได้
  • เราเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่เสนอค่าสเปรดที่แคบที่สุดแล้วในตลาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้ตั้งเป้าหมายรับผลตอบแทนที่มากขึ้นได้

  เรามีแพลตฟอร์มให้เลือกมากมาย ไม่ว่าคุณจะชอบเทรดผ่านเว็บที่ไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมใดๆ เลย หรือชอบเทรดผ่านแอปพลิเคชันที่เทรดได้ทุกที่ทุกเวลา เรายังมีตัวเลือกสุดคลาสสิคอย่าง MT4 และ MT5 ให้คุณได้ใช้ตามความถนัด

  นอกจากบัญชีทดลองที่ช่วยให้คุณได้ฝึกเทรดและพัฒนาทักษะเทรดด้วยเงินเสมือนจริงแล้ว เรายังมีบัญชี ECN หรือ STP เช่นกัน

• 11.  

  มีเลเวอเรจให้ใช้ในการเทรดพาลาเดียม CFD หรือไม่?

  มีแน่นอน แพลตฟอร์มของเรามีเลเวอเรจให้เลือกใช้ได้ตามใจ รองรับสูงสุดถึง 1:1000* สำหรับสินทรัพย์ส่วนใหญ่ แต่อย่าลืมว่าแม้เลเวอเรจที่สูงจะช่วยให้คุณได้เปิดโพสิชันขนาดใหญ่ขึ้น โดยใช้เงินทุนที่น้อยลง แต่ก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

  *เลเวอเรจที่เกินกว่า 1:30 อาจไม่สามารถใช้ได้ในบางภูมิภาค เนื่องจากข้อบังคับด้านกฎระเบียบ

  ในการลดความเสี่ยงนั้น จะต้องตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss ศึกษาตลาดให้ละเอียด และยึดมั่นในกลยุทธ์การเทรดของตัวเอง