คำถามที่พบบ่อย

• 1.  

  ก็อปปีเทรดทำกำไรได้มากขนาดไหน?

  กำไรจากการก็อปปีเทรดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นเทรดเดอร์ที่คุณเลือก สภาพตลาด และระบบก็อปปีเทรดที่ใช้ หากคุณเลือกเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ น่าเชื่อถือ และใช้กลยุทธ์จัดการความเสี่ยงที่ดี โอกาสในการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็อย่าลืมว่าผลงานที่ผ่านมาไม่ใช่การรับประกันถึงผลลัพธ์ในอนาคตได้ และการขาดทุนก็ยังคงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ โดยหลายแพลตฟอร์มก็มีบัญชีทดลองสำหรับก็อปปีเทรดให้คุณได้ลองทดสอบการทำกำไรก่อนโดยไม่ต้องเสี่ยงลงเงินจริง

  2.  

  ก็อปปีเทรดถูกกฎหมายหรือไม่?

  แน่นอน ก็อปปีเทรดถูกกฎหมายในหลายๆ ประเทศ ตราบใดที่โบรกเกอร์ที่ให้บริการนั้นได้รับการควบคุมอย่างถูกต้อง ทุกแพลตฟอร์มที่ให้บริการก็อปปีเทรดนั้นอยุ่ภายใต้ข้อบังคับทางการเงิน ในการเปิดเผยความโปร่งใสและคุ้มครองเทรดเดอร์อย่างเต็มที่ แต่ก่อนเริ่ม อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มและเทรดเดอร์ที่คุณจะใช้บริการนั้นต้องปฏิบัติตามกฎหมายการเงินในประเทศของคุณด้วย

• 3.  

  ก็อปปีเทรดทำงานอย่างไร?

  ก็อปปีเทรดคือการที่คุณได้คัดลอกออเดอร์ของนักลงทุนมืออาชีพแบบเรียลไทม์ผ่านระบบก็อปปีเทรด ช่วยให้คุณได้เห็นทุกการเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ที่เลือกโดยอัตโนมัติ หมายความว่า ทุกครั้งที่มาสเตอร์เปิดหรือปิดโพสิชัน พอร์ตของคุณก็จะทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนการเคลื่อนไหวเหล่านั้นตามสัดส่วนการลงทุนของคุณเอง ให้คุณได้ก็อปปีในตลาดหลากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์

  4.  

  ก็อปปีเทรดเป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่?

  ก็อปปีเทรดถือเป็นทางเลือกที่ดีสุดยอดสำหรับผู้ที่อยากเทรดและใช้กลยุทธ์ที่ไม่ต้องคิดเองให้ปวดหัวเกินไป วิธีนี้เหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองเทรด แต่ไม่มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในตลาดเลย แต่ถึงแม้มันจะทำกำไรได้ดีและประหยัดเวลา แต่ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่ขาดทุน 100% ควรเลือกเทรดเดอร์ที่คุณจะคัดลอกอย่างระมัดระวัง และอย่าลืมคำนึงถึงความเสี่ยงเสมอ

• 5.  

  ความเสี่ยงเกี่ยวกับก็อปปีเทรดมีอะไรบ้าง?

  มันก็เหมือนกับกลยุทธ์ทุกประเภท ก็อปปีเทรดก็ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย สิ่งหลักๆ ที่ต้องระวังได้แก่:

  • ความเสี่ยงจากตลาด: แม้เทรดเดอร์ที่เลือกจะมีประสบการณ์สูงมากเพียงใด ก็ยังมีโอกาสขาดทุนได้อยู่ดี ซึ่งหมายถึงคุณก็อาจเสียเงินทุนได้เช่นกัน
  • การพึ่งพาเทรดเดอร์เพียงคนเดียว: การเลือกก็อปปีมาสเตอร์แค่คนเดียวอาจมีความเสี่ยงสูง ถ้ากลยุทธ์ที่ใช้นั้นล้มเหลว
  • ข้อผิดพลาดของระบบ: ข้อผิดพลาดทางเทคนิคของระบบหรือแพลตฟอร์มอาจทำให้ออเดอร์ถูกเปิดโดยไม่ตั้งใจ หรือพลาดโอกาสในการทำกำไรไป
  • ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ลองคัดลอกมาสเตอร์หลายๆ คน และอย่าลืมตั้งค่าจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสม
  6.  

  มือใหม่จะเริ่มใช้ก็อปปีเทรดได้ไหม?

  แน่นอน! ก็อปปีเทรดคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้วสำหรับมือใหม่ เพราะจะได้เรียนรู้จากเทรดเดอร์มืออาชีพที่เข้าใจตลาดต่างๆ อย่างลึกซึ้งแล้ว โบรกเกอร์ก็อปปีเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่ก็จะมีบัญชีทดลองและเครื่องมืออื่นๆ ที่ออกแบบมาให้มือใหม่โดยเฉพาะ ถือเป็นการลองลงทุนที่ปราศจากความเสี่ยง การเริ่มต้นจากอะไรเล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายขึ้นเมื่อทำความความคุ้นเคยกับระบบแล้วคือวิธีที่ดีที่สุด!

• 7.  

  จะเลือกเทรดเดอร์ที่ดีที่สุดเพื่อก็อปปีได้อย่างไร?

  การเลือกเทรดเดอร์ที่ใช่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการประสบความสำเร็จในการใช้ก็อปปีเทรด ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจได้แก่:

  ประวัติผลงาน: เลือกเทรดเดอร์ที่ทำกำไรได้ในระยะยาว

  ประวัคิความเสี่ยง: ตรวจสอบก่อนว่าระดับความเสี่ยงที่มาสเตอร์ยอมรับได้นั้นตรงกับระดับที่คุณรับได้หรือไม่ เทรดเดอร์ที่ให้ผลตอบแทนสูงอาจมีความเสี่ยงสูงตามมาทีหลัง

  การกระจายการลงทุน: ควรเลือกเทรดเดอร์ที่ลงทุนในตลาดหลากหลาย เช่นหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือสินค้าโภคภัณฑ์

  ค่าคอมมิชชัน: ดูค่าคอมมิชชันหรือค่าธรรมเนียมที่มาสเตอร์จะเรียกเก็บให้ดี

  โดยแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ก็จะมีการแจกแจงสถิติและรายละเอียดเกี่ยวกับมาสเตอร์ ซึ่งช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

  8.  

  แพลตฟอร์มไหนบ้างที่มีก็อปปีเทรดให้ใช้?

  มีแพลตฟอร์มมากมายให้บริการก็อปปีเทรดที่ไว้ใจได้ โดยแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีฟีเจอร์และตลาดที่ใช้ได้แตกต่างกัน เช่นฟอเร็กซ์ หุ้น และอื่นๆ อีกมากมาย โบรกเกอร์บางแห่งก็อาจมีอินเตอร์เฟซที่ใช้ง่าย พร้อมลงรายละเอียดในการวิเคราะห์ข้อมูลของเทรดเดอร์แต่ละคน บางแห่งยังมีบัญชีทดลองให้ใช้เช่นกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมอย่างชัดเจนและมีค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสแล้ว

• 9.  

  ก็อปปีเทรดทำให้ขาดทุนได้หรือไม่?

  มีโอกาสขาดทุนได้ ในมุมหนึ่ง แม้ว่าคุณจะสามารถทำกำไรจากกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้ แต่อีกมุมหนึ่ง ยังไงตลาดก็ยังคาดเดาได้ยากเสมอ ซึ่งหมายถึงโอกาสที่จะขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้น การใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง การกระจายพอร์ต และคอยติดตามผลงานเทรดเดอร์ที่คุณเลือกก็อปปีอยู่เสมอ จะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้

  10.  

  ก็อปปีเทรดมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง?

  ค่าธรรมเนียมในการใช้ก็อปปีเทรดจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและเทรดเดอร์ที่คุณเลือกคัดลอก ส่วนใหญ่ก็จะมี:

  • สเปรด: สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของสินทรัพย์ ซึ่งคุณจะต้องจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์นั้นแพงกว่าราคาขาย
  • ค่าคอมมิชชัน: แพลตฟอร์มบางตัวและเทรดเดอร์จะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากกำไรที่ทำได้ในก็อปปีเทรด
  • ค่าธรรมเนียมจากผลงาน: เทรดเดอร์บางคนจะมีการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากกำไรที่คุณได้รับตามที่ได้ตั้งค่าไว้
  • ควรอ่านข้อกำหนดการเก็บค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มและเงื่อนไขของมาสเตอร์ให้เข้าใจก่อนเริ่มลงทุน เพราะค่าธรรมเนียมจะส่งผลให้กำไรที่คุณได้รับน้อยลง
• 11.  

  จะติดตามผลก็อปปีเทรดได้อย่างไร?

  โบรกเกอร์ก็อปปีเทรดส่วนใหญ่จะมีการแจกแจงข้อมูลสำคัญและสถิติต่างๆ ให้คุณได้ดูพอร์ตของตัวเองแบบเรียลไทม์ สถิติสำคัญที่ควรใส่ใจได้แก่:

  • ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI): เป็นตัวบ่งชี้ว่าออเดอร์ของคุณทำกำไรหรือขาดทุนมากแค่ไหน
  • เปอร์เซ็นต์การขาดทุน (Drawdown): เป็นการวัดการขาดทุนจากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในพอร์ต ช่วยให้เห็นว่าในช่วงเวลาหนึ่งคุณเสี่ยงขาดทุนมากแค่ไหน
  • ประวัติการเทรด: การทบทวนออเดอร์ในอดีตจะช่วยให้คุณได้วิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมาและปรับกลยุทธ์เท่าที่จำเป็น
  • การติดตามพอร์ตอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ได้ถูกต้อง เช่นการหยุดคัดลอกเทรดเดอร์ที่มีผลงานไม่ดี