
หุ้น กับ Forex เหมือนกันรึเปล่า?
คำตอบคือ ‘ไม่เหมือนกัน’ Forex หรือ Foreign Exchange คือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เป็นการซื้อขายสกุลเงินเพื่อ ‘เก็งกำไร’ จากการขึ้นลงของค่าเงิน
หุ้น คือตราสารที่ออกให้แก่ผู้ถือ ผู้ที่ซื้อตราสารจะมีฐานะเป็น “เจ้าของกิจการ” ซึ่งมีส่วนได้เสียหรือมีสิทธิในทรัพย์สินและรายได้ของกิจการ รวมทั้งมีโอกาสได้รับเงินปันผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลกำไรและข้อตกลงของกิจการนั้นๆ
การลงทุนไม่ว่าจะเป็นการเทรดในตลาดประเภทใดก็ตาม นักลงทุนควรจะศึกษาถึงความแตกต่างของตลาดนั้นๆให้ละเอียดว่าเหมาะกับเทรดดิ้งสไตล์ไหน เพราะการเทรดในแต่ละประเภทมีวิธีการเทรดและสภาพคล่องที่แตกต่างกัน
จุดแตกต่างระหว่างการเทรดหุ้นและ Forex มีดังนี้
ตลาดฟอเร็กซ์ | ตลาดหุ้น |
---|---|
สภาพคล่องสูง | สภาพคล่องต่ำ |
เปิดการเทรด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ | เปิดการเทรด 4-8 ชั่วโมง |
ปริมาณการซื้อขายสูง | ปริมาณการซื้อขายน้อย |
เทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง | เทรดได้ในขาขึ้นอย่างเดียว |
เทรดด้วยเลเวอเรจ | ไม่มีเลเวอเรจ |
โดยมากเหมาะกับการเทรดในระยะสั้น | โดยมากเหมาะกับการเทรดในระยะยาว |
– ปริมาณการซื้อขาย และสภาพคล่อง
Forex เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีปริมาณการซื้อขายต่อวันค่อนข้างสูง มากกว่าปริมาณการซื้อขายหุ้น จากปริมาณการซื้อขาย ทำให้ Forex มีสภาพคล่องสูงกว่า ต้นทุนการซื้อขายต่ำกว่า
– เวลาการซื้อขาย
Forex เป็นตลาดประเภท OTC (Over the Counter) เป็นการซื้อขายและทำธุรกรรมได้จากทั่วทุกมุมโลก โดยตลาด Forex เทรดได้ 24 ชั่วโมงต่อวัน/5 วันต่อสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดหุ้นจะเปิดแค่ 4-8 ชั่วโมงต่อวันแล้วแต่ประเทศนั้น ๆ
– ปริมาณของสินทรัพย์
ฟอเร็กซ์มีการซื้อขายคู่สกุลเงินมากกว่า 330 สกุลเงิน นักเทรด Forex มักจะเทรดสกุลเงินหลักเช่น EUR / USD และ GBP / USD เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความเสถียรโดยทั่วไปในตลาด forex โอกาสทางการตลาดของหุ้นจะมีน้อยกว่า Forex คุณสามารถซื้อขายหุ้นทั่วโลกในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เภสัชกรรม และยานยนต์
– โอกาสในการขยายกำไร
เทรด Forex ก็คือการเทรดด้วยเลเวอเรจและมาร์จิ้น นักลงทุนมีโอกาสขยายขอบเขตการทำกำไรได้ด้วยเงินทุนน้อย ส่วนการเทรดหุ้นที่ต้องใช้เงินทุนเต็มจำนวนและไม่สามารถขยายกำไรได้ แต่การใช้เลเวอเรจก็มีข้อเสียเช่นกันเพราะการทำกำไรได้ก็สามารถขาดทุนได้เมื่อกราฟไปที่ทิศทางตรงกันข้าม
– กลยุทธ์การซื้อขาย
การเทรด Forex สามารถเทรดได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่การเทรดหุ้นจะสามารถทำกำไรได้ในกรณีที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเท่านั้น
จุดเหมือนของหุ้นและ Forex
ทั้งตลาด Forex และตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากปัจจัยอุปสงค์ (demand) และอุปทาน (supply) ความผันผวนของการซื้อขาย Forex และการซื้อขายหุ้น
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกเทรดแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณและสไตล์การเทรดที่คุณชื่นชอบ หากคุณหวังว่าจะเก็งกำไรเป็นก้อนใหญ่ในระยะสั้นและรับความเสี่ยงสูงได้ คุณอาจจะเหมาะกับการเทรด Forex มากกว่า ถ้ามีเงินทุนจำนวนมากและอยากจะถือครองสินทรัพย์ยาวๆ คุณอาจจะเหมาะกับการเทรดหุ้นมากกว่า
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด
หมวดหมู่
เปิดบัญชีเทรดจริง
โปรดเลือกประเทศที่สามารถใช้ได้
ไม่พบข้อมูล
ไม่พบข้อมูล
โปรดเลือกอีเมลที่สามารถใช้ได้
โปรดกรอกรหัสยืนยันที่ถูกต้อง
1. 8-16 ตัวอักษร + เลข (0-9) 2. ใช้ตัวอักษร (A-Z, a-z) 3. อักขระพิเศษ (เช่น !a#S%^&)
กรุณากรอกข้อมูลให้ถูกต้อง
โปรดติ๊กถูกตรงช่องเพื่อดำเนินการต่อ
โปรดติ๊กถูกตรงช่องเพื่อดำเนินการต่อ
Important Notice
STARTRADER does not accept any applications from Australian residents.
To comply with regulatory requirements, clicking the button will redirect you to the STARTRADER website operated by STARTRADER PRIME GLOBAL PTY LTD (ABN 65 156 005 668), an authorized Australian Financial Services Licence holder (AFSL no. 421210) regulated by the Australian Securities and Investments Commission.
CONTINUEผิดพลาด! โปรดลองอีกครั้ง